เมนู

ใช่.
ก็หรือว่า จิตสังขารจักดับแก่บุคคลใด, วจีสังขารก็จักเกิด
แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?
ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตก็ดี ปัจฉิมจิตที่ไม่มีวิตกและไม่มี
วิจาร จักเกิดในลำดับแห่งจิตใดก็ดี จิตตสังขารจักดับแก่บุคคลเหล่านั้น
แต่วจีสังขารไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคลที่นอกจากนั้น จิตต-
สังขารจักดับ และวจีสังขารก็จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
ปุคคลวาระ จบ

โอกาสวาระ


กายสังขารมูล


กายสังขารมูละ ฯ ล ฯ


[1192] กายสังขารจักเกิดในภูมิใด, ฯ ล ฯ
กายสังขารมูล จบ
โอกาสวาระ จบ

ปุคคโลกาสวาระ


กายสังขารมูล


กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี:-


[1193] กายสังขารจักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, วจีสังขาร
ก็จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?
บุคคลที่กำลังเข้าทุติยฌาน ตติยฌานอยู่ กายสังขารจักเกิดแก่
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่วจีสังขารไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้น, บุคคลที่กำลังเข้าปฐมฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในกามา-
วจรภูมิก็ดี กายสังขารจักเกิด และวจีสังขารก็จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้น.
ก็หรือว่า วจีสังขารจักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กายสังขาร
ก็จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?
ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตของบุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิ
ก็ดี ปัจฉิมจิตของบุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิ จักเกิดในลำดับแห่ง
จิตใดก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในรูปาวจรภูมิก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอรูปาวจร
ภูมิก็ดี วจีสังขารจักดับแกบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กายสังขาร
ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่กำลังเข้าปฐมฌาน
อยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิที่นอกจากนั้นก็ดี วจีสังขาร
จักดับ และกายสังขารก็จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี